TMB Analytics วิเคราะห์ 4 กระแสเศรษฐกิจและธุรกิจติดปีกรับปีระกา


TMB Analytics คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2560 นี้ GDP จะขยายตัวได้ร้อยละ 3.5 ใกล้เคียงกับปี 2559 ที่คาดว่าขยายตัวได้ร้อยละ 3.3 แม้เศรษฐกิจจะขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่มีบางกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มสดใสและเติบโตได้อย่างโดดเด่น เพราะได้รับผลทางบวกจากเทรนด์ธุรกิจสนับสนุน



สำหรับเทรนด์ธุรกิจปี 2560 ที่คาดว่าจะมาแรงแน่นอน” คือ “เทรนด์การลงทุนภาครัฐ” หลังจากใช้เวลา 1-2 ปี ผลักดันและเตรียมความพร้อม ในปี 2560 จึงเป็นปีแห่งการลงทุนอย่างแท้จริง ทั้งการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า รถไฟรางคู่ และมอเตอร์เวย์ ที่คาดว่ามีเม็ดเงินลงทุนทั้งปีเกือบ 2 แสนล้านบาทเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ผู้ผลิตและผู้ค้าวัสดุก่อสร้างหรือเครื่องจักรกล ต่างได้รับอานิสงค์กันอย่างเต็มที่

ด้าน “เทรนด์ท่องเที่ยว” ยังมีทิศทางที่สดใสอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าช่วงปลายปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญอยู่บ้าง แต่คาดว่าจะเป็นผลกระทบระยะสั้นๆ TMB Analytics คาดว่าปี 2560 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยมากกว่า 35 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 สร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 9 หรือคิดเป็นเม็ดเงินกว่า 1.82 ล้านล้านบาท ธุรกิจที่ได้รับแรงส่งโดยตรงจากเทรนด์ท่องเที่ยว คือ โรงแรมและที่พัก ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายของฝาก และธุรกิจบันเทิง ซึ่งตั้งอยู่แหล่งท่องเที่ยวและจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี เป็นต้น

สำหรับ “เทรนด์สุขภาพและความงาม” เป็นอีกเทรนด์ธุรกิจที่ยังคงฮิตต่อเนื่อง จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนไทยที่ใส่ใจสุขภาพและการเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี อีกทั้งการเริ่มเข้าสู่สังคมสูงวัยของไทย เป็นแรงสนับสนุนเทรนด์ธุรกิจยังอยู่คู่สังคมไทย ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ โรงพยาบาลและคลินิก ถือเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
 
สุดท้าย คือ “เทรนด์ดิจิทัล” เป็นเทรนด์ธุรกิจที่มาแรง และใกล้ตัวคนไทยทุกส่วนมากที่สุด จากเทคโนโลยีการสื่อสารที่รวดเร็ว ราคาอุปกรณ์สื่อสารที่จับต้องได้มากขึ้น ภาครัฐฯ ก็สนับสนุนเต็มตัวจากนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล การมีระบบชำระเงินที่สะดวกปลอดภัยและต้นทุนต่ำลง ทำให้คนไทยซื้อขายสินค้าและบริการผ่านระบบออนไลน์แทนการจับจ่ายใช้สอยรูปแบบเดิมเพิ่มขึ้น TMB Analytics คาดว่า มูลค่าการค้าปลีก (B2C) ผ่านระบบออนไลน์ระหว่างปี 2560-64 จะเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยร้อยละ 21 ต่อปี และมีมูลค่ากว่า 1.4 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.5 เท่าของมูลค่าในปัจจุบัน เป็นสิ่งยืนยันอนาคตของธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ได้ว่า ยังสามารถขยายตัวได้อีกมาก ดังนั้น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจขนส่งสินค้า ธุรกิจบริการด้านไอที จึงเป็นธุรกิจที่ได้มีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซเองต้องมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วจากคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น สินค้าทดแทนที่มีจำนวนมาก และการเข้าถึงข้อมูลของผู้บริโภคที่สูงขึ้น เพื่อความได้เปรียบทางธุรกิจและสร้างยอดขายได้มากกว่าคู่แข่ง

นอกจากนี้ เทรนด์ดิจิทัล ก็อาจส่งผลกระทบต่อบางกลุ่มธุรกิจเช่นกัน ได้แก่ ธุรกิจกระดาษ โรงพิมพ์ หนังสือ ซึ่งถูกทดแทนด้วยสื่อดิจิทัล ธุรกิจค้าปลีกสินค้าเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่นที่ขายเฉพาะหน้าร้าน อาจมีความเสี่ยงยอดขายลดลง เนื่องจากการเปลี่ยนพฤติกรรมจับจ่ายของคนไทย

โดยสรุป 4 เทรนด์ธุรกิจปีระกา ทั้ง เทรนด์ดิจิทัล เทรนด์สุขภาพและความงาม เทรนด์ท่องเที่ยว และเทรนด์การลงทุนภาครัฐ ถือเป็นแต้มต่อให้กับธุรกิจที่อินเทรนด์เหล่านี้ได้มีโอกาสเติบโต และได้เปรียบมากขึ้น ธุรกิจภาคส่วนใดที่ปรับตัว ปรับกลยุทธ์ ได้รวดเร็ว ก็ย่อมสร้างโอกาสทางธุรกิจได้มากกว่าคู่แข่งอย่างแน่นอน

 
(ขอบคุณข้อมูลจาก : www.tmbbank.com)