ปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญต่อการพัฒนาสหกรณ์ไทย

จากผลการศึกษาวิจัย เรื่อง “100ปี สหกรณ์ไทย : ประวัติความเป็นมาและแนวโน้มการพัฒนาสหกรณ์ในทศวรรษหน้า” โดยสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย มีการสรุปถึงปัญหาและอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาสหกรณ์ของไทยไว้ ดังนี้

(1) ปัญหาด้านนโยบายและกฎหมายด้านนโยบายรัฐ เช่น การนำสหกรณ์ไปเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานตามโครงการของรัฐบาลเพื่อการบรรลุเป้าหมายโครงการหรือแผนงาน ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายของสหกรณ์โดยตรง ในด้านกฎหมาย มีประเด็นปัญหาในเรื่องบทบัญญัติที่มีรายละเอียดการปฏิบัติมากเกินไป ไม่ยืดหยุ่น และใช้ปฏิบัติกับสหกรณ์ทุกประเภท ทุกขนาด ทุกพื้นที่ ทุกสหกรณ์ เหมือนกันหมด โดยไม่แยกประเภทหรือรายละเอียดให้ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง

(2) ปัญหาการส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์ โดยเจ้าหน้าที่รัฐจะเน้นการปฏิบัติตามกฎหมายเป็นหลัก จึงละเลยการส่งเสริมให้ปฏิบัติตามหลักการสหกรณ์ และการส่งเสริมการใช้เครื่องมือการจัดการองค์กรและการบริหารธุรกิจในการทำงาน

(3) ปัญหาการกำกับ ควบคุม และตรวจสอบสหกรณ์ โดยเจ้าหน้าที่รัฐมักจะใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการกำกับสหกรณ์ มากกว่าการส่งเสริมให้สหกรณ์ใช้เครื่องมือหรือเทคนิคการจัดการควบคุม เช่น แผนงาน งบประมาณ เป้าหมาย การกำหนดมาตรฐาน ตัวชี้วัดและการวัดความสำเร็จของงาน เป็นต้น

(4) ปัญหารูปแบบและโครงสร้างของสหกรณ์ โดยสหกรณ์ไทยจะใช้รูปแบบและโครงสร้างเดียวกันหมด ทั้งขนาดเล็กที่บริการสมาชิกในชุมชนและสหกรณ์ขนาดใหญ่ระดับชาติ ที่ดำเนินธุรกิจทั่วประเทศ รวมไปถึงขบวนการสหกรณ์ มีโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสหกรณ์ไม่เป็นระบบทำให้ไม่มีประสิทธิภาพ ขบวนการสหกรณ์อ่อนแอและไม่มีพลัง

(5) ปัญหาระบบการบริหารจัดการสหกรณ์สหกรณ์ไทย โดยสหกรณ์ไทยเป็นสหกรณ์แบบดั้งเดิมซึ่งมีธรรมชาติองค์กรที่มีระบบไม่มีประสิทธิภาพเชิงการบริหารเมื่อเทียบกับระบบการบริหารธุรกิจภาคเอกชน เพราะมีระบบการตัดสินใจที่แตกต่างกัน

(6) ปัญหาการพัฒนาบุคลากรของสหกรณ์ เนื่องจากประกอบด้วยสมาชิกสหกรณ์ที่มีความหลากหลายและมีจำนวนมาก ที่จะต้องได้รับเลือกเข้ามาเป็นกรรมการดำเนินการ รวมไปถึงปัญหาการพัฒนาเจ้าหน้าที่สหกรณ์และการสรรหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถมารถร่วมงาน ด้วยเหตุและปัจจัยต่างๆ

(7) ปัญหาด้านภาพลักษณ์องค์กร โดยที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของสหกรณ์เป็นองค์กรที่มีปัญหาความขัดแย้ง มีระบบเป็นทางการสูง การตัดสินใจช้า จึงอาจจะไม่ท้าทายหรือดึงดูดบุคลากรรุ่นใหม่ทีมีความรู้ความสามารถเข้ามาร่วมงานและไม่น่าสนใจสำหรับธุรกิจเอกชนที่จะร่วมมือ

(ขอบคุณข้อมูลจาก สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย : www.clt.or.th/main.php)